กล่าวถึง "ไมตรีอักษร"
PROJECT นี้เป็นความคิดริเริ่มของ "หนู ผานิตา หลวงมูล" ทางอาจารย์ผู้สอนได้ให้ความช่วยเหลือให้มีผู้ช่วยในการพัฒนางานของอีกคน ซึ่งผมก็ได้มาช่วยใน PROJECT นี้ของ "หนู" ถึงแม้ว่าจะช่วยให้งานชิ้นนี้เสร็จอย่างไม่สมบูรณ์แบบ แต่ก็ได้เรียนรู้หลักการทำงานของ "หนู" ได้ไม่มากก็น้อย จากประสบการณ์นี้ก็จะได้นำไปพิจารณา ปรับปรุงแก้ไขส่วนที่ขาดตกบกพร่องต่อไป ให้มีความใส่ใจ ละเอียด รอบคอบในการทำงานให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งในงานชิ้นนี้ที่ได้รับมอบหมายก็ได้ทำอย่างเต็มที่ ตามความสามารถของตนเอง จึงได้รู้ว่าตัวเราเองก็ยังต้องพัฒนาอะไรที่ทำไม่ได้อีกมาก เพื่อจะได้ไม่ต้องเป็นภาระของคนอื่นในภายภาคหน้าอีกด้วย
สุดท้ายนี้ก็ขอขอบคุณอาจารย์ผู้สอนทั้งสองท่านที่ได้ให้ความอนุเคราะห์ที่ให้คำแนะนำที่ดี เป็นห่วงเป็นใยต่อนักศึกษาทุกคน และต่อไปในภายภาคหน้าจะพัฒนาการทำงานและความสามารถของตนเองให้มากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิมครับ
วันศุกร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2550
การนำเสนองาน
สรูป "ไมตรีอักษร"
วันจันทร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2550
"ไมตรีอักษร" 2

ส่วนอักษรชุดนี้ ได้มีการออกแบบตัวอักษรแล้ว ซึ่งเป็นชุดอักษรที่มีชื่อว่า "ไมตรีอักษร" เป็นการเอาโครงสร้างตัวอักษรแต่ละคู่มาสลับจับคู่กัน เพื่อออกแบบตัวอักษรชุดใหม่
และส่วนชุดนี้จะเป็นการเรียบเรียงตัวอักษรตามที่ หนู ผานิตา ได้ตั้งระบบการเรียงตัวอักษรใหม่

วันจันทร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2550
การทดลองเป็นภาพเคลื่อนไหว
ช กับ ญ
เป็นการทดลองภาพเคลื่อนไหว ของตัวอักษรสองตัวที่จะมาสลับบางส่วนกัน ระหว่างตัวอักษร ช กับ ญ
วันอาทิตย์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2550
วันอังคารที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2550
การดูผลที่สมบูรณ์ เพื่อแก้ไขจุดบกพร่อง
วันศุกร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2550
การวิเคราะห์ข้อมูลตัวอักษร ครั้งที่ 1
รูปแบบตัวอักษรภาษาไทย มีรูปแบบตัวอักษรที่ซับซ้อนค่อนข้างน้อยกว่าตัวอักษรในเอเชียในบางประเทศ ซึ่งตัวอักษรภาษาไทยนั้น มีรูปแบบที่มีการขมวดหัวตัวอักษรให้มีความต่างกันในแต่ละตัว ตัวอักษรภาษาไทยมีทั้งขมวดหัวให้กลมและไม่มีขมวด มีความต่างกันอย่างไร ลองมาวิเคราะห์กัน ตามความเข้าใจ
ตัวอักษรภาษาไทยที่มีการขมวดหัว
ตัวอักษรภาษาไทยที่มีการขมวดหัวนั้น เป็นตัวอักษรที่มีความเข้าใจง่าย อ่านคล่อง เหมาะแก่การใช้เขียนเป็นเนื้อเรื่อง เนื้อหา ไว้สำหรับอ่าน เพราะรูปแบบตัวอักษรที่เข้าใจง่าย อ่านแล้วสบายตา ดังนั้นตัวอักษรรูปแบบนี้มักจะอยู่ในหนังสือที่เป็นทางการ ราชการ หรือใช้เขียนในหนังสือนวนิยายต่าง ๆ เพื่อให้อ่านได้คล่อง
ตัวอักษรภาษาไทยที่ไม่มีการขมวดหัว
ตัวอักษรภาษาไทยที่ไม่มีการขมวดหัว เป็นตัวอักษรอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ออกแบบมาเพื่อให้มีความน่าสนใจ น่าค้นหา ส่วนใหญ่จึงเหมาะกับการนำไปใช้เป็นหัวหนังสือ หัวเรื่อง หัวข้อความต่าง ๆ เพื่อใหมีความน่าสนใจ ให้ผู้อ่านกระตือรือร้นที่จะอ่านเรื่องราวต่อไป
เมื่อพูดถึงเรื่องของขนาดและรูปแบบของตัวอักษรทั้ง 2 รูปแบบแล้ว จะมีความแตกต่าง ดังนี้
ตัวอักษรภาษาไทยที่ไม่มีการขมวดหัวนั้น เหมาะแก่การนำไปใช้ให้เป็นหัวหนังสือ หัวเรื่องราวต่าง ๆ เพื่อให้มีความน่าสนใจ ดังนั้นจำเป็นต้องมีขนาดใหญ่ขึ้นมา เพื่อให้สะดุดตา ดึงดูดความสนใจ ให้มีความอยากอ่านหนังสือเล่นนั้น หากตัวอักษรที่ไม่มีการขมวดหัว มีขนาดเล็กเกินไปหรือ เอาไปใช้ในการเขียนเป็นตัวอักษรสำหรับอ่าน มีข้อความเยอะ ๆ อาจจะทำให้ การอ่านจะอ่านค่อนข้างยาก เพราะขนาดเล็กอาจจะมองตัวอักษรที่มีความคล้ายคลึงกันผิดเพี้ยนไป จึงทำให้การอ่านลำบาก อย่างเช่น ข กับ บ หรือ ค กับ ด เป็นต้น
(เนื่องจาก Blog มีปัญหา ไม่สามารถลงรูปได้ จะนำรูปลงในภายหลัง)
ตัวอักษรภาษาไทยที่มีการขมวดหัว
ตัวอักษรภาษาไทยที่มีการขมวดหัวนั้น เป็นตัวอักษรที่มีความเข้าใจง่าย อ่านคล่อง เหมาะแก่การใช้เขียนเป็นเนื้อเรื่อง เนื้อหา ไว้สำหรับอ่าน เพราะรูปแบบตัวอักษรที่เข้าใจง่าย อ่านแล้วสบายตา ดังนั้นตัวอักษรรูปแบบนี้มักจะอยู่ในหนังสือที่เป็นทางการ ราชการ หรือใช้เขียนในหนังสือนวนิยายต่าง ๆ เพื่อให้อ่านได้คล่อง
ตัวอักษรภาษาไทยที่ไม่มีการขมวดหัว
ตัวอักษรภาษาไทยที่ไม่มีการขมวดหัว เป็นตัวอักษรอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ออกแบบมาเพื่อให้มีความน่าสนใจ น่าค้นหา ส่วนใหญ่จึงเหมาะกับการนำไปใช้เป็นหัวหนังสือ หัวเรื่อง หัวข้อความต่าง ๆ เพื่อใหมีความน่าสนใจ ให้ผู้อ่านกระตือรือร้นที่จะอ่านเรื่องราวต่อไป
เมื่อพูดถึงเรื่องของขนาดและรูปแบบของตัวอักษรทั้ง 2 รูปแบบแล้ว จะมีความแตกต่าง ดังนี้
ตัวอักษรภาษาไทยที่ไม่มีการขมวดหัวนั้น เหมาะแก่การนำไปใช้ให้เป็นหัวหนังสือ หัวเรื่องราวต่าง ๆ เพื่อให้มีความน่าสนใจ ดังนั้นจำเป็นต้องมีขนาดใหญ่ขึ้นมา เพื่อให้สะดุดตา ดึงดูดความสนใจ ให้มีความอยากอ่านหนังสือเล่นนั้น หากตัวอักษรที่ไม่มีการขมวดหัว มีขนาดเล็กเกินไปหรือ เอาไปใช้ในการเขียนเป็นตัวอักษรสำหรับอ่าน มีข้อความเยอะ ๆ อาจจะทำให้ การอ่านจะอ่านค่อนข้างยาก เพราะขนาดเล็กอาจจะมองตัวอักษรที่มีความคล้ายคลึงกันผิดเพี้ยนไป จึงทำให้การอ่านลำบาก อย่างเช่น ข กับ บ หรือ ค กับ ด เป็นต้น
(เนื่องจาก Blog มีปัญหา ไม่สามารถลงรูปได้ จะนำรูปลงในภายหลัง)
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)