วันศุกร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2550

"ไมตรีอักษร"

กล่าวถึง "ไมตรีอักษร"
PROJECT นี้เป็นความคิดริเริ่มของ "หนู ผานิตา หลวงมูล" ทางอาจารย์ผู้สอนได้ให้ความช่วยเหลือให้มีผู้ช่วยในการพัฒนางานของอีกคน ซึ่งผมก็ได้มาช่วยใน PROJECT นี้ของ "หนู" ถึงแม้ว่าจะช่วยให้งานชิ้นนี้เสร็จอย่างไม่สมบูรณ์แบบ แต่ก็ได้เรียนรู้หลักการทำงานของ "หนู" ได้ไม่มากก็น้อย จากประสบการณ์นี้ก็จะได้นำไปพิจารณา ปรับปรุงแก้ไขส่วนที่ขาดตกบกพร่องต่อไป ให้มีความใส่ใจ ละเอียด รอบคอบในการทำงานให้มากยิ่งขึ้น ซึ่งในงานชิ้นนี้ที่ได้รับมอบหมายก็ได้ทำอย่างเต็มที่ ตามความสามารถของตนเอง จึงได้รู้ว่าตัวเราเองก็ยังต้องพัฒนาอะไรที่ทำไม่ได้อีกมาก เพื่อจะได้ไม่ต้องเป็นภาระของคนอื่นในภายภาคหน้าอีกด้วย
สุดท้ายนี้ก็ขอขอบคุณอาจารย์ผู้สอนทั้งสองท่านที่ได้ให้ความอนุเคราะห์ที่ให้คำแนะนำที่ดี เป็นห่วงเป็นใยต่อนักศึกษาทุกคน และต่อไปในภายภาคหน้าจะพัฒนาการทำงานและความสามารถของตนเองให้มากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิมครับ

การนำเสนองาน

ขั้นตอนการนำไปใช้ในการออกแบบ
เป็นการนำเสนองานเพื่อนำไปใช้ในการออกแบบ เป็นการนำเสนอโดยการเชื่อมตัวอักษรจากจุดกำเนิดว่า ฅ.คน คือจุดเริ่มต้นของทุกสิ่ง



การสรุปงานใช้ไพ่เป็นตัวนำเสนองาน โดยการจับคู่ของอักษรเพื่อให้เกิดความเข้าใจในรูปร่างอักษรได้ง่ายยิ่งขึ้น

PROJECT "ไมตรีอักษร" TIMELINE

TIME LINE

เป็น Time Line ในการพัฒนางานมาตั้งแต่เริ่มต้นของ PROJECT "ไมตรีอักษร"

สรูป "ไมตรีอักษร"

ไมตรีอักษร
ได้ชุดตัวอักษร "ไมตรีอักษร" ครบทั้งหมดแล้ว ซึ่งความสมบูรณ์ของตัวอักษรทั้งหมดนั้น ยังไม่สมบูรณ์ที่สุด แต่ก็พอดูเป็นรูปเป็นร่างได้ว่า เป็นตัวอักษรแล้วนั้น รูปแบบตัวอักษรทั้งหมดก็ได้ออกมาเป็นแบบนี้
หลังจากได้ตัวอักษรที่มีการออกแบบมาแล้วนั้น ชุดนี้ก็ได้นำมาทดลองต่อไป เพื่อเป็นการหาตัวเชื่อมของตัวอักษรเพื่ออธิบายงานให้มีความเข้าใจมากขึ้น

วันจันทร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2550

"ไมตรีอักษร"

ไมตรีอักษร เป็นชื่อของโครงการนี้

"ไมตรีอักษร" 2

อักษรชุดนี้เป็นอักษรปกติ ที่ หนู ผานิตา ได้ออกแบบมาเพื่อใช้ในการทำโครงการ "ไมตรีอักษร" เพื่อที่จะนำโครงสร้างมาใช้ออกแบบโครงการ
ส่วนอักษรชุดนี้ ได้มีการออกแบบตัวอักษรแล้ว ซึ่งเป็นชุดอักษรที่มีชื่อว่า "ไมตรีอักษร" เป็นการเอาโครงสร้างตัวอักษรแต่ละคู่มาสลับจับคู่กัน เพื่อออกแบบตัวอักษรชุดใหม่

และส่วนชุดนี้จะเป็นการเรียบเรียงตัวอักษรตามที่ หนู ผานิตา ได้ตั้งระบบการเรียงตัวอักษรใหม่

วันจันทร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2550

การทดลองเป็นภาพเคลื่อนไหว

ช กับ ญ

เป็นการทดลองภาพเคลื่อนไหว ของตัวอักษรสองตัวที่จะมาสลับบางส่วนกัน ระหว่างตัวอักษร ช กับ ญ

วันอาทิตย์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2550

ผลการทดลอง




การทดลอง ก


การทดลอง ข



รวมการทดลองของตัวอักษร

วันอังคารที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2550

การดูผลที่สมบูรณ์ เพื่อแก้ไขจุดบกพร่อง


จากการจับคู่อักษรที่มีการวางไว้ในลักษณะการพึ่งพาความหมายซึ่งกันและกัน ของ ผานิตา ก็ได้รับมอบหมายงานต่อว่างานเสก็ตที่ทำไว้ ผมจะทดลองทำให้สมบูรณ์มากขึ้น โดยงานที่ทำให้เรียบร้อยขึ้นจะได้ดูผลอีกทีว่าเราจะแก้ไขตรงไหนได้อีก เพื่อเป็นการสำรวจในลักษณะผลว่าเรียบร้อยหรือสมบูรณ์มากน้อยเพียงใด


วันศุกร์ที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2550

การวิเคราะห์ข้อมูลตัวอักษร ครั้งที่ 1

รูปแบบตัวอักษรภาษาไทย มีรูปแบบตัวอักษรที่ซับซ้อนค่อนข้างน้อยกว่าตัวอักษรในเอเชียในบางประเทศ ซึ่งตัวอักษรภาษาไทยนั้น มีรูปแบบที่มีการขมวดหัวตัวอักษรให้มีความต่างกันในแต่ละตัว ตัวอักษรภาษาไทยมีทั้งขมวดหัวให้กลมและไม่มีขมวด มีความต่างกันอย่างไร ลองมาวิเคราะห์กัน ตามความเข้าใจ

ตัวอักษรภาษาไทยที่มีการขมวดหัว
ตัวอักษรภาษาไทยที่มีการขมวดหัวนั้น เป็นตัวอักษรที่มีความเข้าใจง่าย อ่านคล่อง เหมาะแก่การใช้เขียนเป็นเนื้อเรื่อง เนื้อหา ไว้สำหรับอ่าน เพราะรูปแบบตัวอักษรที่เข้าใจง่าย อ่านแล้วสบายตา ดังนั้นตัวอักษรรูปแบบนี้มักจะอยู่ในหนังสือที่เป็นทางการ ราชการ หรือใช้เขียนในหนังสือนวนิยายต่าง ๆ เพื่อให้อ่านได้คล่อง

ตัวอักษรภาษาไทยที่ไม่มีการขมวดหัว
ตัวอักษรภาษาไทยที่ไม่มีการขมวดหัว เป็นตัวอักษรอีกรูปแบบหนึ่ง ที่ออกแบบมาเพื่อให้มีความน่าสนใจ น่าค้นหา ส่วนใหญ่จึงเหมาะกับการนำไปใช้เป็นหัวหนังสือ หัวเรื่อง หัวข้อความต่าง ๆ เพื่อใหมีความน่าสนใจ ให้ผู้อ่านกระตือรือร้นที่จะอ่านเรื่องราวต่อไป

เมื่อพูดถึงเรื่องของขนาดและรูปแบบของตัวอักษรทั้ง 2 รูปแบบแล้ว จะมีความแตกต่าง ดังนี้
ตัวอักษรภาษาไทยที่ไม่มีการขมวดหัวนั้น เหมาะแก่การนำไปใช้ให้เป็นหัวหนังสือ หัวเรื่องราวต่าง ๆ เพื่อให้มีความน่าสนใจ ดังนั้นจำเป็นต้องมีขนาดใหญ่ขึ้นมา เพื่อให้สะดุดตา ดึงดูดความสนใจ ให้มีความอยากอ่านหนังสือเล่นนั้น หากตัวอักษรที่ไม่มีการขมวดหัว มีขนาดเล็กเกินไปหรือ เอาไปใช้ในการเขียนเป็นตัวอักษรสำหรับอ่าน มีข้อความเยอะ ๆ อาจจะทำให้ การอ่านจะอ่านค่อนข้างยาก เพราะขนาดเล็กอาจจะมองตัวอักษรที่มีความคล้ายคลึงกันผิดเพี้ยนไป จึงทำให้การอ่านลำบาก อย่างเช่น ข กับ บ หรือ ค กับ ด เป็นต้น

(เนื่องจาก Blog มีปัญหา ไม่สามารถลงรูปได้ จะนำรูปลงในภายหลัง)

วันจันทร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2550

การทดลอง (การสลับ) แบบเคลื่อนไหว ครั้งที่ 1

เลือกที่จะเป็นผู้ช่วย
(ซึ่งได้รับให้ทำงานแบบภาพเคลื่อนไหวของการสลับตั้งแต่ต้น)

ก-ฮ
สิ่งที่เกิดจากการผสมกันของตัวอักษรภาษาไทย 44 ตัว เกิดจาก เกิดจากการนำเสนอมุมมองโครงสร้างก่อนการสลับที่กันของ ก-ฮ จากการจับคู่ที่ได้ทดลอง โดยเป็นมุมมองที่จะเสนอถึงความสนุกสนาน ของตัวอักษรว่า ถ้าลองแทนให้เป็นสิ่งมีชีวิตจะเป็นอย่างไร




ขั้นตอนแรกก็เป็นการเรียกตัวอักษรทั้งหมด 44 ตัว จาก ก-ฮ แล้วทำการแทนให้ตัวอักษรทั้ง 44 ตัว มีชีวิต ซึ่งเมื่อมีชีวิตแล้ว มันจึงต้องการที่จะไปอยู่กับพักพวกของมัน โดยการโยงเครือข่ายของความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องซึ่งกันและกัน โดยแยกจาก ค.คน (คีบอร์ดไม่มีตัวค.คน) แล้วแยกเป็น ชายกับหญิง แล้วก็โยงความสัมพันธ์กันไปเรื่อย ๆ ตามตาราง

วันจันทร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2550

DOUBLE & DELUDE >>> OPTICAL ILLUSION

OPTICAL ILLUSION



จากสัปดาห์ที่ผ่านมา SEQUENCE ที่ได้มามีมากมาย และที่ยกตัวอย่างมาก็คือ ระบบการแตกหน่อ หรือการทวีคูณ DOUBLE ที่เป็นการทวีคูณ จาก 1 > 2 > 4 > 8 > 16 >>>... นั้นให้มีเยอะขึ้นทวีคูณเท่าตัว และอีก SEQUENCE หนึ่ง คือ ระบบการลวงความสนใจไปอีกทางหนึ่งแต่ต้องการจุดมุ่งหมายอีกอย่างหนึ่ง หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า การลวง DELUDE นั้น ได้เอามารวมกัน จนเกิดเป็นงานเชิงทดลองที่เป็นภาพลวงตาที่เกิดจากการเพิ่มจำนวนทวีคูณขึ้น ว่าจะมีผลต่อการลวงตามากน้อยแค่ไหน
เป็นภาพที่ลวงให้เห็นว่า สี่เหลี่ยมนี้เป็นสี่เหลี่ยมจตุรัสหรือป่าว แต่จริงๆ แล้วเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัส

วันจันทร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2550

SEQUENCE............eeeee

SEQUENCE SEQUENCE //// SEQUENCE SEQUENCE //// SEQUENCE SEQUENCE ... SEQUENCE SEQUENCE ... SEQUENCE SEQUENCE ... SEQUENCE SEQUENCE ... SEQUENCE SEQUENCE ... SEQUENCE SEQUENCE ////
(พยายามร้องให้เป็นเพลงที่ผมร้องทุกวันนะ อิอิ)

......................................................................................................

SEQUENCE SEQUENCE และ SEQUNCE
คำนี้เป็น เรียงลำดับ เป็นขั้นๆ
อาจารย์ติ๊ก อาจารย์นุ ให้ทำมัน
คิดสร้างสรรค์ คำๆ นี้ให้เป็นงาน
จากวันนั้นถึงวันนี้ที่ผมคิด
มันก็ติด คิดอย่างไร ยังเพ้อฝัน
คิดต่อไป คิดอีกนิด คิดทุกวัน
คิดให้มัน เป็นSEQUENCE นะทุกคน
ทุกอย่างนี้ มันก็เป็น SEQUENCE นะ
อาจารย์ครับ(ค่ะ) ทุกคนนั้น รับทราบแล้ว
แต่จะทำ อย่างไร ให้มันแนว
คิดๆ แล้ว คิดต่อไป คิดแล้วตัน
และต่อมา คิดๆ แล้ว คิดๆ อีก
หลายๆ WEEK คิดต่อมา ก็หาไม่
คิดคิดคิด คิดคิดมา คิดคิดไป
คิดยังไง ได้SEQUENCE แล้วก็ตัน
จนบัดนี้ ลองนับว่า มีกี่คิด
นับสักนิด ว่าพวกผมคิด...มากแค่ไหน
แล้วสุดท้าย ทำๆมา ทำๆไป
ก็นี้ไง SEQUENCE ของผมเอง


จากบทกลอนข้างตน ผมก็ได้คิดงานออกขึ้นมาอีกชิ้น(จากที่คิดมาหลายครั้ง และไม่ผ่านสักที --") คือ SEQUENCE ที่ได้คือ การให้ข้อมูลที่ให้คนอ่านสนใจไปในเนื่อความที่เขียนเพื่อให้เข้าใจไปกับเนื้อความนั้นๆ แล้วเรามาตบท้ายด้วยการหักมุมว่าที่เค้าคิดนั้นมันไม่ใช่เลย หรือเป็นการเปลี่ยนความคิดแรก ที่คนอ่านได้อ่านบทความนั้นๆ แล้วสรุปออกมามันไม่ใช้อย่างที่คิดตอนแรก ซึ่งหมายความว่า เป็นการหักมุมความคิดนั้นเอง

PROJECT ที่ได้ก็คือ จะสื่อเป็น VISUAL ออกมาให้คนสนใจคิดไปอีกแบบ แล้วผมจะหักมุมความคิดที่สื่อ VISUAL แรกออกไปแล้วสรุปเป็นอีกความคิดหนึ่ง

อย่างเช่น ผมจะให้ภาพแกะกระโดดข้ามรั่ว แล้วให้นับ 1 ตัว 2 ตัว 3 ตัว 4 ตัว 5 ตัว ... ไปเรื่อยๆ แล้วส่วนใหญ่ก็จะคิดว่าเป็นการนับเพื่อที่จะให้นอนหลับใช่มะคับ จะให้เห็นคนกำลังเคลิ้มเหมือนกำลังจะหลับด้วย แล้วต่อมาก็จะมีคนหนึ่งตะโกนมาว่า "พี่ๆ... แกะพี่กำลังกระโดดหนีออกจากฟาร์มจะหมดและน๊ะนั้นอะ" จากภาพที่กำลังหลับนั้นเอง หมายถึงภาพที่คนๆ นั้นเป็นลมไปนั้นเอง
ซึ่ง PROJECT นี้ จะทำเป็น ANIMATION เพื่อสื่อให้เป็นภาพ จากที่เล่าเป็นตัวหนังสือเป็นกลอน ก็จะสื่อให้เป็นภาพเคลื่อนไหว ซึ่งจริงๆ แล้วก็จะทำเป็น CLIP ภาพเคลื่อนไหวสั้นๆ เป็นมุขในมือถือประมาณนั้น

วันจันทร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2550

แค่คิดถึง

เ ร า ใ ส่ น า ฬิ ก า มื อ ซ้ า ย
ที่ ใ ส่ มื อ ซ้ า ย เ พ ร า ะ ถ นั ด ข ว า
ย ก มื อ ซ้ า ย ขึ้ น ม า ดู เ ว ล า ไ ด้ ง่ า ย
แ ต่ ถึ ง มี น า ฬิ ก า เ ร า ก็ ช อ บ ไ ป ส า ย อ ยู่ ดี
น า ฬิ ก า ก็ แ ค่ บ อ ก เ ว ล า . . ไ ม่ ไ ด้ ทำ ใ ห้ เ ร า ไ ป เ ร็ ว ขึ้ น

คิ ด ดู แ ล้ ว . . หั ว ใ จ ก็ อ ยู่ ท า ง ซ้ า ย เ ห มื อ น กั น
บ า ง ที เ ร า ก็ คิ ด น ะ . . ว่ า อ วั ย ว ะ ใ น ร่ า ง ก า ย ที่ มี 2 ชิ้ น
จ ะ อ ยู่ ซ้ า ย แ ล ะ ข ว า
อ ย่ า ง แ ข น , ข า , ลู ก ก ะ ต า ทำ น อ ง นั้ น . .
แ ล้ ว ที่ มี ชิ้ น เ ดี ย ว . . ก็ แ ส ด ง ค ว า ม โ ด ด ข อ ง มั น
อ ย่ า ง จ มู ก , ส ะ ดื อ ก็ อ ยู่ ต ร ง ก ล า ง . . ป ร ะ ม า ณ นั้ น

แ ล้ ว ทำ ไ ม . . หั ว ใ จ ถึ ง เ อี ย ง ซ้ า ย ล่ ะ ? ?
บ า ง ที เ ร า ก็ คิ ด ว่ า . . ที่ เ ป็ น งั้ น ก็ เ พ ร า ะ
ใค ร บ า ง ค น อ ย า ก เ ตื อ น ใ ห้ เ ร า รู้ ว่ า . .

หั ว ใ จ เ ร า ไ ม่ ห นั ก แ น่ น พ อ จ ะ อ ยู่ ต ร ง ก ล า ง
แ ล้ ว ก็ ไ ม่ มี ม า ก พ อ จ ะ แ บ่ ง เ ป็ น ส อ ง ด้ ว ย เ ห มื อ น กั น

SEQUENCE>>PROJECT การแตกหน่อ BUDDING

การแตกหน่อนั้น เป็นการขยายพันธุ์อีกวิธีหนึ่งทางธรรมชาติของสิ่งมีชีวิตบ้างชนิด หรือพวกเซลล์เดียว อย่างเช่น ไฮดรา ปะการัง ฟองน้ำ และพวกโพรติสต์ (ยีนส์ เห็น รา) เป็นต้น การแตกหน่อของมันนั้น เมื่อเจริญเติบโตเต็มที่แล้วจะมีการสร้างเนื้อเยื่อข้างลำตัวงอกออกมา แล้วเจริญเติบโตเป็นตัวเล็ก ๆ ที่มีอวัยวะต่าง ๆ เหมือนตัวแม่ หลังจากติดอยู่กับตัวแม่ระยะหนึ่งก็จะหลุดออกมาไปอยู่อิสระตามลำพัง ดังนั้น การแตกหน่อของสิ่งมีชีวิตประเภทนี้ก็เหมือนกันการทวีคูณของจำนวนๆ หนี่ง ซึ่งจะได้จำนวนเพิ่มมากขึ้นเป็นสองเท่า ดังนั้น ผมจึงอยากจะเสนอเป็นงาน Visual Art เป็นการเสนอมุมมองของภาพอีกชนิดหนึ่ง คือ ภาพเคลื่อนไหว อาจจะเป็นคลิปสั่นๆ หรือภาพเคลื่อนไหวที่มีการซ้ำไปซ้ำมา มาทำเป็นงานที่มีการแตกหน่อ หรือทวีคูณจำนวนออกไป โดยให้เห็น Visual ในอีกแบบลักษณะหนึ่ง โดยจะมีการทวีคูณ จาก 1 -> 2 และจาก 2 -> 4 จาก 4 -> 8 ซึ่งจะมีความทวีคูณไปเรื่อยๆ จนเกิด Visual ที่น่าสนใจขึ้นมา

วันจันทร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2550

SEQUENCE>>Sequence>>squence...

SEQUENCE การเรียงลำดับขั้นตอน ก็นึกถึงเรื่องการเรียงลำดับขั้นตอนในการเต้นแต่ละท่าไปเรื่อยๆ จนจบเพลง โดยมีเสียงดนตรี จังหวะและทำนองในการสื่อท่าทางต่างๆ ออกมา บางครั้งการเต้น เป็นการสื่อท่าทางที่มีความหมายหรือไม่มีความหมายก็ได้ แต่ในที่นี้จะหยิบเอาการเต้นที่มีท่าทางสื่อความหมายได้ และการเต้นอาจะไม่มีการสื่อสารด้วยเสียงก็ได้ แต่จะมีจังหวะในท่าทางของมันเอง แล้วพอนึกถึงท่าทางที่สื่อความหมายได้โดยไม่มีเสียง ก็จะเป็น เหมือนการแสดงท่าทางใบ้คำเพื่อสื่อความหมายที่ง่ายๆ ออกมา ซึ่งเหล่านี้ก็เป็นการเรียงลำดับ SEQUENCE ที่ต้องเป็นไปตามลำดับความหมายของคำที่จะสื่อด้วย

วันอาทิตย์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2550

1 บาทหายไปไหน??? บอกที...งงมาก???

โจทย์ ชาย 3 คน จ่ายค่าพักโรงแรม คนละ 10 บาท รวมเป็นเงิน 30 บาท เจ้าของโรงแรมใจดีลดเหลือ 25 บาท เลยฝากบ๋อย ไปคืนชายทั้งสาม 5 บาท บ๋อยเก็บไว้เอง 2 บาท แล้วคืนให้ชาย 3 คน คนละ 1 บาท เท่ากับว่า ชายทั้งสามจ่ายค่าโรงแรมคนละ 9 บาท เท่ากับ 27 บาท รวมกับที่น้องบ๋อยเก็บไว้ 2 บาท เป็น 29 บาท แล้วอีก 1 บาท หายไปไหน ...งง...

10*3=30 =>> 30-5=25 =>> 5-2=3 =>> 9*3=27+2=29 =>>1???

ยางแตกคับ

นักศึกษาปี 4 สองคนไปงานปาร์ตี้บ้านเพื่อนแล้วเมาจนถึงสว่าง สร่างเมาก็นึกขึ้นได้ว่าตอนเช้ามีสอบวิชาเคมี ทั้งคู่ก็เลยเข้าไปโกหกอาจารย์เคมีว่าเมื่อคืนรถยางแตก เลยต้องเสียเวลาและไม่ได้อ่านหนังสือทั้งคืน จึงขอเวลาอ่านหนังสือเพิ่มอีก 1 คืน อาจารย์ก็ใจดีเหลือเกินตอบตกลงให้สิทธิพิเศษทั้งคู่ ไปอ่านหนังสือมาแล้วพรุ่งนี้ค่อยมาสอบ รุ่งขึ้นทั้งคู่ถูกจับแยกให้สอบคนละห้องเพราะอาจารย์กลัวว่ามันจะแอบลอกกัน เมื่อทั้งคู่อ่านข้อสอบก็พบว่ามีแค่ 2 ข้อเ ท่านั้น ข้อ1) จงอธิบายความหมายของคำว่า "อะตอม" (5 คะแนน).......... ทั้งคู่ตอบคำถามข้อแรกได้สบายมากเสร็จแล้วก็อ่านข้อต่อไป *ข้อ**2) จงบอกมาว่ายางรถข้างหน้า หรือ ข้างหลัง ซ้าย หรือ ขวา ที่มันแตกจนเป็นเหตุให้พวกมึงไม่ได้อ่านหนังสือสอบ (95คะแนน) !!!*

วันจันทร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2550

SEQUENCE>>PRINT ADVERTISING



PRINT ADVERTISING

โฆษณาพวกนี้ผมลองนำมาเชื่อมโยงกับคับว่า SEQUENCE ดูว่าจะไปได้หรือป่าว คือ

ถ้าเหตุการณ์แต่ละอย่างไม่ได้ดูบริบทรอบข้าง ก็อาจจะไม่ได้เป็น SEQUENCE แต่ว่า ถ้าเราดูรอบข้าง ๆ ด้วยแล้ว มันมีการเรื่องลำดับเหตุการณ์ต่อไปได้ว่า มันจะเกิตอันตรายอย่างที่คาดคิดกันไว้ได้
อย่างภาพแรก ถ้าดูอย่างผ่านๆ ก็จะเห็นแค่ว่า คนกำลังไต่บันไดขึ้นไปทาสีบนเพดาน ธรรมดา แต่ถ้าดูบริบทรอบข้างแล้วก็จะเห็นว่ามีสุนัขอยู่ด้านล่าง กำลังจะคาบผาที่บันไดทับไว้อยู่ แล้วลองคิดดูต่อไปว่า ถ้าสุนัขตัวนั้นคาบผ้าออกไป จะเกิดอะไรขึ้น...
ภาพที่สอง ก็เช่นกัน ดูผ่านๆ ก็คิดว่ามันดันตรายถ้าจะขี่จักรยานล้อเดียวผ่านเหล่าเหล็กที่แขนวนเนื้อไว้ แต่ถ้าลองคิดเหตุการณ์ที่ว่า ถ้าล้มลงละ จะเกิดอะไรขึ้น...
ภาพสุดท้ายนี้ก็เช่นกัน ดูว่ากำลังขับรถบดถนนธรรม แต่ถ้าดูให้ดี มีผ้าพันคูสีชมพูกำลังห้อยลงไปที่ล้อของรถบดอยู่ แล้วถ้ามันเข้าไปติดกับล้อรถละ จะเกิดอะไรขึ้น...
จากที่ได้ดูมาก็จะทำให้ทุกคนคิดต่อไปได้ว่าเหตุการณ์ต่อไปน่าจะเกิดอะไรขึ้น จึงเป็นSEQUENCEของโฆษณานี้ที่ว่าจะต้องมีเหตุการณ์ลำดับต่อไปที่ทำให้คิดต่อไปได้เรื่อย ๆ

ทำไม...ต้องสวมแหวน แต่งงานที่ "นิ้วนาง" ด้วย

ทำไม... ต้องสวมแหวน แต่งงานที่ “นิ้วนาง” ด้วย
ไม่ใช่แค่เพราะเราเรียกมันว่า ring finger แน่ๆ
มันต้องมีความหมายมากกว่านั้น
ทดลองพิสูจน์ความมหัศจรรย์ด้วยตัวเอง
ลองแบมือ 2 ข้าง ประกบเข้าหากัน (พนมมือ)
แล้วงอนิ้วกลางลงข้างใน เอาหลังนิ้วกลาง ทั้ง 2 ข้างมาชนกัน
ทีนี้... นิ้วที่เหลือ ก็คือ โป้ง/ ชี้/ นาง/ ก้อย ให้เอาปลายนิ้วมาชนกัน

ลองปล่อยนิ้วที่เอาปลายชนกัน ให้ออกจากกัน ทีละนิ้ว
โดยที่ “นิ้วกลาง” ยังคงงอแตะกันอยู่
จะพบว่า... นิ้วชี้ ก็ปล่อยจากกันได้
นิ้วโป้ง ก็ปล่อยจากกันได้
นิ้วก้อย ก็ปล่อยจากกันได้ อย่างสบายๆ

แต่... “นิ้วนาง” กลับปล่อยออกจากกันไม่ได้

นั่นเป็นเพราะ

นิ้วกลาง แทน ตัวเราเอง
นิ้วโป้ง แทน พ่อแม่ ซึ่งวันหนึ่งท่านก็ต้องจากเราไป
นิ้วชี้ แทน พี่น้อง ซึ่งเขาก็ต้องไปมีชีวิตของเขาเอง
นิ้วก้อย แทน ลูก พอโตขึ้น ลูกก็ต้องไปมีชีวิตของตัวเอง มีสังคม, ครอบครัว ของตัวเอง
นิ้วนาง แทน "คู่ชีวิต"
...ทีนี้ก็เหลือแค่ "คู่ชีวิต" แล้วล่ะ ที่จะอยู่กับเราไปจนแก่...

SEQUENCE>>HARRY POTTER

HARRY POTTER AND THE SORCERERS STONE

HARRY POTTER AND THE CHAMBER OF SECRETS


HARRY POTTER AND THE GOBLET OF FIRE

HARRY POTTER AND THE PRISONER OF AZKABAN
------------------------------------------------------------------------------------------------
Harry Potter
เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับพ่อมด แม่มดในโรงเรียนสอนพ่อมดแม่มด ที่จินตนาการเรื่องราว โดยการดำเนินเรื่องด้วยตัวละครที่เด่น คือ แฮร์รี่ พอตเตอร์ ที่ดำเนินเรื่องราวต่าง ๆ ทั้งหมดมาอย่างเข้มข้น ซึ่งตัว แฮร์รี่ ที่เกิดมาก็เพราะความรักของพ่อที่เป็นพ่อมด และแม่ที่เป็นคนปกติธรรมดา แต่มาเรียนโรงเรียนแม่มด จึงทำให้ แฮร์รี่ ได้ถือกำเนิดขึ้นมา จนกระทั่ง มีบุคคลหนึ่งที่เป็นพ่อมดที่มีอำนาจที่สุดในโลกพ่อมด เป็นพ่อมดที่โหดร้าย ได้ตามฆ่าพ่อมดแม่มดคนอื่น ๆ จนได้มาพบกับ พ่อมดแม่มดที่เป็นพ่อแม่ของ แฮร์รี่ แต่ด้วยความรักและเป็นห่วงลูกแม่มดคนนี้ก็ได้ถ่ายทอดความห่วงใยและปกป้องลูกด้วยพลังแห่งรักทำให้ พ่อมดที่มีความโหดร้ายได้สูญเสียพลังทั้งหมดไป และจุดนี้เองที่ทำให้เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้น โดยเรื่องนี้จะดำเนินเรื่องราวเป็นภาค ๆ ต่อกันไป โดยแต่ละภาคก็จะมี แฮร์รี่ พอตเตอร์ เป็นตัวที่เกี่ยวข้องทุกอย่างเข้าด้วยกัน และมีองค์ประกอบอื่นเชื่อมโยงให้เรื่องราวน่าสนใจมากขึ้นด้วย

อย่าง Sequence เรื่องนี้ก็คือ ตัว แฮร์รี่ พอตเตอร์ เองที่เป็วทำให้เรื่องทุกอย่างเกิดขึ้นมาเป็น Sequence หลักของเรื่อง อย่างภาคแรกก็จะเป็นการดำเนินเรื่องให้ แฮร์รี่ มีความเกี่ยวพันธ์กับศิลาอาถรรพ์ ซึ่งจากจุดหนึ่งไปยังจุดหนึ่ง จน แฮร์รี่ ได้มาเจอกับศิลาอาถรรพ์ และจบลงด้วยการที่ได้รู้ว่า ศิลาอาถรรพ์นั้นเกี่ยวข้องกับตัว แฮร์รี่ อย่างไรโดยเป็นเรื่องที่ดำเนินมาอย่างเป็นเหตุเป็นผลทำให้เรื่องเกิดความสนุกขึ้น แล้วภาคสอง ก็เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ แฮร์รี่ ได้ไปค้นพบห้องแห่งความลับห้องหนึ่ง ซึ่งก็ทำให้ แฮร์รี่ ไปเกี่ยวพันธ์เช่นกัน เป็นการดำเนินเรื่องราวต่าง ๆ อย่างเป็นเหตุเป้นผลมาจนพบห้องแห่งความลับ และจบด้วยการปิดห้องแห่งความลับไปโดยไม่มีใครไปยุ่งเกี่ยวอีกเลย ต่อมาภาคที่สาม ก็เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับถ้วยอัคนี ซึ่งเป็นถ้วยสำหรับคัดเลือกนักกีฬาไตรกีฬา โดยมีข้องกำหนดต้องเป็นนักเรียนพ่อมดแม่มดที่มีอายุเกิน 17 ปี แต่ แฮร์รี่ ได้มีชื่อเข้าไปคัดเลือกด้วย โดยที่ แฮร์รี่ ยังมีอายุไม่ถึง 17 ปี จึงทำให้เรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นในภาคนี้ เป็นเรื่องราวที่ทำให้ แฮร์รี่ ได้เข้าใกล้บุคคลที่รุ้ว่าเป็นใครที่ได้ฆ่าพ่อแม่ของเขา เข้าไปอีกขั้นหนึ่ง ภาคที่สี่ก็จะเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับนักโทษอัสกาบัน ซึ่งนักโทษได้แหกคุกมานั้น ก็คือพ่อทูนหัวของ แฮร์รี่ นี้เอง พ่อทูนหัว นี้ก็คือเพื่อนรักของพ่อของ แฮร์รี่ ในสมัยตอนเรียนที่โรงเรียนนี้ ซึ่งก็เกี่ยวโยงมาจนเจอกับ แฮร์รี่ และได้พูดคุยกันจนไปภาคที่ห้า ทั้งแฮร์รี่ และเพื่อน ๆ ก็ได้เข้าร่วมกับ ภาคีนกฟีนิกซ์ เป็นภาคที่เกี่ยวกับองค์กรหนึ่งที่ ผอ. โรงเรียนได้ตั้งขึ้นเพื่อที่จะปราบคุณที่รู้ว่าเป็นใคร คนที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อมดที่โหดร้ายที่สุดในโลกพ่อมด ได้กลับคืนมาหลังจากสูญเสียพลังทั้งหมดในการฆ่าแฮร์รี่ แต่ไม่สำเร็จ เค้าก็ได้กลับมาอย่างเต็มตัวในภาคนี้ ทำให้เรื่องราวในภาคนี้เข้มข้น มากขึ้น โดยที่แฮร์รี่ก็ได้พบกับ คนที่เคยคิดจะฆ่าตัวเค้าเอง แต่ไม่สำเร็จ ได้กลับฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง จึงทำให้ภาคีนกฟีนิกซ์ต้องตั้งขึ้นมาใหม่อีกครั้ง ในภาคนี้ก็เกี่ยวข้องกับแฮร์รี่มากขึ้น และภาคต่อไปเป็นภาคที่หก นี้ หนังสือกำลังจะออกมา ผมก็ยังไม่ได้อ่าน เลยไม่ทราบว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไร แต่ด้วยการที่คาดการว่า น่าจะเป็นการที่ได้ต่อสู้กันระหว่างแฮร์รี่กับพ่อมดที่โหดร้าย แน่ๆ เพราะว่าได้ทราบข่าวมาว่า อาจจะมีแค่ เจ็ดเล่ม เรื่องราวเล่มที่หก ก็น่าจะใกล้จะจบแล้ว

ดังนั้น เรื่องราวทั้งหมดของหนังเรื่องนี้ ก็จะมี Sequence ตัวเดียวที่ดำเนินเรื่องราวมาเป็นแก่นนำเรื่องราวทุกภาคๆ ให้เชื่อมโยงกัน นั้นก็คือ Harry Potter และในแต่ละภาคก็จะมี Sequence ต่าง ๆ ที่เชื่อมโยงกันในแต่ละภาคอีกด้วย จึงทำให้เรื่องนี้มี Sequence เยอะมาก

วันพฤหัสบดีที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2550

SEQUENCE

ตามความหมายของ Dictionary หมายถึง
none
1.[C] a number of things (actions, events, etc) that happen or come one after another
2.[U] the order in which a number of things happen or are arranged
......................................................................................................
การต่อเนื่องกัน, ตอนที่ต่อเนื่องกัน, ลำดับเหตุการณ์, ลำดับ, ขั้นตอน, การเรียงลำดับ
----------------------------------------------------------------------------------------------------
ดังนั้น Sequence ในความหมายของผม หมายถึง การเรียงลำดับขั้นตอนโดยที่มันเกี่ยวข้องกันของสิ่งหนึ่งสิ่งใด คือ มันเรียงลำดับไว้แล้วว่าต้องเรียงลำดับขั้นตอนอย่างนี้ โดยไม่สามารถข้ามขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งไปได้ เพราะมันโดนกำหนดไว้แล้วหรือมันมีคำสั่งไว้แล้ว จึงทำให้มันเรียงลำดับตามๆ กันไปตามคำสั่ง...ดังนั้น ในตามความหมายของผม ผมจึงเชื่อมโยงไปถึงเรื่อง วัฏจักรวงจรชีวิต ของผีเสื้อ ซึ่งมันจะมีลำดับขั้นตอนเรียงตามกันมาโดยที่มันไม่สามารถเปลี่ยนเป็นลำดับอื่นได้ ต้องเรียงลำดับขั้นตอนตามกันไปจึงจะกำเนิดเป็นผีเสื้อที่สวยงามออกมาได้ แต่ด้วยความหมายที่กล่าวมา ผมยังสงสัยว่า การเรียงลำดับต่อๆ ไปนี้ ถ้ามันมีผลที่ต่อให้เกิดเป็นวงจรกลับเวียนวนไปเป็นรอบๆ มันอาจจะเรียกเป็น SEQUENCE หรือเปล่า ???

SEQUENCE
l
PROCESS 1
l
PROCESS 2
l
PROCESS 3
l
....

อิสระ กับ ผูกพันธ์

ทั้งสองไม่เคยเจอกัน
อิสระเป็นคนง่ายๆสบายๆอะไรก็ได้
ผิดกับผูกพันธ์จะทำอะไรต้องคิดถึงคนอื่นก่อนเสมอ
อิสระเป็นคนที่ไม่เคยคิดไรมาก อยากทำอะไรก็ได้ทำ
ผูกพันธ์ไม่เคยตามใจตัวเองเค้าจะถามคนอื่นว่าชอบไหม
อิสระมีเวลาว่างจะไปกินข้าว ดูหนัง ไปเที่ยวคนเดียว
ผูกพันธ์อยากให้คนนั้นไปด้วยเสมอถ้าไปไม่ได้เค้าเลือกไม่ไป
อิสระไม่เคยต้องโทรฯหาใครก่อนนอนไม่ต้องบอกใครเมื่อถึงบ้าน
ผูกพันธ์ต้องคอยส่งข้อความเมื่อถึงบ้านแล้วเสมอ
อิสระไม่คิดอะไรมากถ้าคุณจะไปไหนมาไหนกลับบ้านดึก
ผูกพันธ์รู้สึกเป็นห่วงเมื่อเขายังไม่กลับบ้าน
อิสระไม่เคยว่าอะไรถ้าเค้าจะไปกับเพื่อนหลายกลุ่ม
ผูกพันธ์รู้สึกไม่สบายใจที่เขาไม่ไปกับผูกพันธ์บ้าง
อิสระไม่คิดว่าเค้าจะอยู่กับใครเค้าชอบอยู่คนเดียว
ผูกพันธ์อยากให้เค้าอยู่ข้างๆคอยคิดปรึกษาช่วยเหลือ
อิสระจำไม่ได้ว่าเคยคิดถึงใครบ้างหรือยัง
ผูกพันธ์คิดถึงเค้าเสมอไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามคุณรู้จัก
อิสระหรือผูกพันธ์ครับถ้าเจอผูกพันธ์บอกเค้าด้วยว่าผมรอคุณอยู่

วันอาทิตย์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2550

ILLUSTATION FINAL PROJECT

SKETCH

COLOR SKETCH


MODEL

BOX

MODEL

PACKAGE
----------------------------------------------------------------------------------------------
ANIMAL ISLAND [AI]
งานชิ้นนี้ เป็นงาน FINAL ของวิชา ILLUSTATION ในปีที่ 2 เป็นงานที่เกือบจะครบสมบูรณ์ที่เกี่ยวกับการสร้างตัวละครในจินตนาการ เป็นการสร้าง CHARACTER ของสัตว์ในจินตนาการ โดยการนำสัตว์ชนิดหนึ่งไปผสมรวมกับสัตว์อีกชนิดหนึ่ง แต่ยังคงรูปเดิมของสัตว์ต้นแบบไว้ ซึ่งเหล่าสัตว์นี้ก็ได้อยู่บนเกาะ เกาะแห่งหนึ่งที่ไกลมาก เป็นเกาะแห่งสัวต์ในจินตนาการ จะมีทั้งตัวนิสัยดี และไม่ดี ปะปนกันไป จึงทำให้เกิดเรื่องราวต่างๆ บนเกาะนี้ขึ้น จึงเรียกเกาะนี้ว่า ANIMAL ISLAND [AI]
ขั้นตอนแรกก็สเก็ตใส่กระดาษก่อน ซึ่งผมก็ชอบที่จะจิตนาการพวกสัตว์ทั้งหลายมาผสมรวมสายพันธุ์กัน จนเกิดเป็นสัตว์ชนิดใหม่ขึ้น แล้วก็ลงสี แล้วปั้นออกมาเป็นตัว และในที่นี้ก็มีทั้งหมด 12 ชนิด ซึ่งผมก็ได้ร่างมาจาก สิงโต นก โลมา เสือ ปลา เต่า หนอน หมูป่า งูเห่า หนู กิ้งก่า และช้าง เป็นพื้นฐานร่างเดิมของมัน แล้วก็เอาสัตว์ชนิดอื่นมาผสมรวมร่างกัน จนเกิดเป็นสัตว์ในจินตนาการเหล่านี้ หรือในแง่ที่ว่าผมชอบการ์ตูนเรื่องหนึ่ง คือ POKEMON เลยคิดอยากจะลองสร้างขึ้นมาเองบ้าง ก็ได้ไอเดียมาจากการ์ตูนเรื่องนี้

REBRAND d&f coffee

BRAND เดิมของร้าน d&f coffee
REBRAND d&f coffee
--------------------------------------------------------------------
d&f coffee
เป็นงาน Rebrand ตอนเรียน Communication Design II เป็นชื่อร้านกาแฟ เป็นร้านเล็กๆ อยู่หน้าหอพักสวนปาล์ม ซึ่งจากที่ผมได้เดินผ่านไปผ่านมาอยู่ตลอด ก็ได้สังเกตเห็นป้ายร้านที่ให้ความรู้สึกว่า ไม่ได้สื่อให้ผู้คนที่ผ่านไปมา เห็นว่าเป็นร้านขายกาแฟที่มีน่ารับประทาน ซึ่งภายในร้านก็มีทั้งกาแฟ เครื่องดื่มต่างๆ และยังมีเค้กที่มีความอร่อย บรรยากาศก็น่านั่ง โดยรวมแล้วภาพลักษณ์ของร้านดูดีมีราคาน่านั่งรับประทาน แต่ว่าป้ายร้านที่ดูแล้วไม่เข้าใจ สื่อความหมายออกมาไม่ชัด ทำให้คุณภาพของร้านตกไปด้วย ผมจึงได้ Rebrand ให้กับร้านนี้ ซึ่งชื่อร้านคือ d&f coffee เป็นการนำตัวย่อขอชื่อเจ้าของร้านมาตั้งเป็นชื่อร้าน ผมก็เลยนำตัวย่อทั้งสองตัวมารวมกัน แล้วพัฒนามากลายเป็นถ้วยกาแฟที่มีควันออกมาสองเส้น เพื่อสื่อให้เห็นความหอม อร่อยของกาแฟร้านนี้